วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ตร.รุนแรงเกินเหตุ ปืนจ่อหัวผู้ชุมนุมบังคับออกนอกทำเนียบ





วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.10 น. เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลหลายพันนายได้พังประตูหน้าฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ ในระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ทันตั้งตัว แม้จะมีการเรียกระดมพล แต่ตำรวจสามารถฝ่าวงล้อมเข้าไปได้ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมคว้าของใกล้มือ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก เก้าอี้ ขว้างใส่ตำรวจ แต่ตำรวจเข้าประชิดตัวและมีการจับตรวจค้นก่อนปล่อยตัว และบังคับให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปรวมตัวกันบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ตำรวจบางนายได้ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุด้วยการใช้ปืนจี้หัวประชาชนให้ออกไปจากพื้นที่
ซึ่งการบุกเข้าในพื้นที่ครั้งนี้เนื่องจากตำรวจต้องการพื้นที่ครึ่งหนึ่งของทำเนียบรัฐบาล คือตั้งแต่ประตู 5 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไปจนถึงตึกสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี


วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯ ประกาศเป้าหมายและวิธีการชุมนุมสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทย


พันธมิตรฯ ออกประกาศ ฉบับที่ 12/2551 กำหนดเป้าหมายและวิธีการชุมนุมสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทย ย้ำใช้สิทธิตาม ม.63 ยึดมั่นแนวทางสันติวิธี ระบุอาจต้องปิดการจราจรและทำให้สถานที่ราชการบางแห่งไม่สามารถเปิดทำการ เพื่อไม่ให้รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมเข้าทำงานจนสร้างความเสียหายล่มจมต่อประเทศชาติ

ประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 12/2551

เรื่อง กำหนดเป้าหมายและวิธีการชุมนุมสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ณ บัดนี้ได้มาถึงเวลาเช้าวันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551 อันเป็นวันที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจัดชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยมีพลังของกองทัพประชาชนกู้ชาติ ที่ยิ่งใหญ่ ห้าวหาญ เกรียงไกร เปี่ยมไปด้วยพลังทางศีลธรรม ที่สมควรได้รับการคารวะอย่างสูงยิ่ง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะยังคงธำรงภารกิจศักดิ์สิทธิ์เดิมในการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และโค่นล้มระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ตลอดจนสร้างการเมืองใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติชุดนี้กำลังจะทำให้บ้านเมืองล่มจม เพราะได้ย่ำยีรัฐธรรมนูญทุกรูปแบบ เหิมเกริมถึงขั้นจะฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแล้วยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อฟอกความผิดให้กับตัวเองและพวกพ้องตลอดจนจะล้มล้างสถาบันองคมนตรี ซ่องสุมอุ้มชูผู้คนเป็นขบวนการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉ้อฉลปล้นชาติล้างผลาญเงินงบประมาณเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้อง ถึงขั้นจะเตรียมการจะปล้นคลังหลวง สร้างรัฐตำรวจกลั่นแกล้งใส่ร้ายประชาชนอย่างไร้ศีลธรรม สร้างอันธพาลป่าเถื่อนของรัฐบาลทำร้ายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ส่งเสริมให้คนชั่วให้มีอำนาจในแผ่นดิน กำจัดคนดีออกจากอำนาจหน้าที่ปกครองบ้านเมือง ขายชาติขายอธิปไตยทำให้สูญเสียดินแดนบนบกและแหล่งพลังงานธรรมชาติในอ่าวไทย มุ่งร้ายและทำลายองค์กรอิสระและสถาบันตุลาการ และใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบใช้หน่วยงานและเครื่องมือของรัฐแทรกแซงสื่อสารมวลชน ให้ข้อมูลเท็จและทำให้เกิดความเข้าใจผิดในบ้านเมือง ดังนั้น นับตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป การชุมนุมใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมีเป้าหมายหลักเพื่อการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติที่ไร้จริยธรรมให้ออกไปจากการบริหารประเทศโดยเร็วที่สุด อันเป็นหนทางเดียวในการกอบกู้ประเทศชาติ ที่ใกล้ล่มจมอยู่ในขณะนี้ มิให้ต้องล่มจมลงไปในที่สุด เพื่อบรรลุเป้าหมายในการชุมนุมในครั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำหนดวิธีการให้กองทัพประชาชนกู้ชาติปฏิบัติดังต่อไปนี้

1. ให้กองทัพประชาชนกู้ชาติได้เข้าร่วมการชุมนุมอย่าง สงบ และปราศจากอาวุธ อันเป็นการใช้สิทธิของประชาชนตามมาตรา 63 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 อย่างเคร่งครัด ในการนี้ให้พี่น้องประชาชนที่ได้เข้าร่วมการชุมนุม ได้ยึดมั่นในสันติวิธี ไม่ใช้วาจาหรือการกระทำใดๆที่เป็นการยั่วยุ และไม่ทำลายทรัพย์สินทางราชการ โดยเด็ดขาด

2. ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์มาโดยตลอดแล้วว่า การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีแต่ความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ โดยที่ไม่เคยเกิดเหตุวุ่นวายแม้แต่ครั้งเดียว ดั้งนั้นหากมีผู้ใดก็ตามที่เข้าร่วมชุมนุม และก่อความไม่สงบ ยั่วยุ ก่อกวน สร้างเงื่อนไขให้เกิดการทะเลาะวิวาท กระทำการรุนแรง หรือการทำลายทรัพย์สินทางราชการ ให้ถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ไม่หวังดีและเป็นอันธพาลของรัฐบาล ที่ต้องการทำลายความชอบธรรมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการตามขั้นตอนของกฎหมายในทันที โดยให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว

3. เมื่อมีประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากเพื่อใช้สิทธิตามมาตรา 63 ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความจำเป็นต้องปิดช่องการจราจรและอาจถึงขั้นไม่สามารถทำให้สถานที่ราชการบางแห่งเปิดทำการได้ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถือว่าเป็นการสำแดงพลังของกองทัพประชาชนที่ไม่ต้องการให้ประเทศชาติต้องล่มจม จึงไม่ยินยอมให้โอกาสรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมทั้งในทางนิติธรรม และศีลธรรม บริหารประเทศชาติและเข้าทำงานสถานที่ราชการนั้นอีกต่อไป พร้อมกันนี้ขอเชิญชวนข้าราชการเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อกอบกู้ชาติบ้านเมืองมิให้ล่มจมอย่างพร้อมเพรียง

4. เพื่อความสำเร็จในเป้าหมายในการชุมนุม หากมีการเคลื่อนกองทัพของประชาชน ขอให้พี่น้องประชาชนฟังและปฏิบัติตามคำสั่งและประกาศจากเวทีใหญ่มัฆวาน อย่างมีวินัย และเคร่งครัด


ประกาศ ณ เช้าวันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

"ร.ต.อ.เฉลิม" ยันไม่เคยวิ่งเต้นขอร้องนายกฯ ช่วยบุตรชายกลับรับราชการ



อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันไม่เคยขอร้องหรือวิ่งเต้นนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งให้ ร.ต.ดวง กลับเข้ารับราชการ เตรียมพิจารณาฟ้องร้อง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ ที่สั่งพักพักราชการและสั่งปลด ร.ต.ดวง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้มีการนำเอกสารของทางราชการมาแจกให้กับสื่อมวลชน โดยยืนยันว่า คดีที่สงสัยว่า ร.ต.ดวง บุตรชายหนีราชการทหารนั้น ได้ยุติแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2546 เนื่องจากคณะกรรมการฝ่ายทหารที่สอบสวน และผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ร.ต.ดวง ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีแต่งตั้งให้ ร.ต.ดวง กลับเข้ารับราชการโดยมิชอบ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการนั้น ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยไปขอร้อง วิ่งเต้น รวมทั้งไม่เคยคิดที่จะหาความทุกข์ให้กับนายสมัคร และนายสมัครก็ไม่เคยได้รับผลประโยชน์อะไรในเรื่องนี้ ทั้งนี้จะขอปรึกษากับบุตรชาย รวมทั้งจะดูข้อกฎหมายด้วยว่าจะฟ้องร้อง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ ที่สั่งพักพักราชการและสั่งปลด ร.ต.ดวง หรือไม่ เนื่องจากคิดว่า บุตรชายควรได้รับสิทธิ์อันชอบธรรม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่า เรื่องดังกล่าว ไม่น่าจะใช่ฝีมือของคนในพรรคพลังประชาชน และคนที่ออกมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.นั้น เป็นความคิดของคนที่ไม่มีหิริโอตัปปะ พร้อมเชื่อมั่นในเอกสารหลักฐานว่าจะสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ ป.ป.ช.ได้


ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

การหนีสุดชีวิตของทักษิณ-พจมาน

ารหนีสุดชีวิตของสองคนผัวเมียชินวัตร ต่างไปจากการหายไปของกำนันเปาะ นายสมชาย คุณปลื้ม ต่างไปจากการหายไปของนายวัฒนา อัศวเหม แม้จะมีเป้าหมายอันเดียวกันคือ หนีคุก

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภริยามีที่อยู่แน่นอนที่มหานครลอนดอน แถมยังมีแถลงการณ์มายังมิตรรักแฟนๆ ของเขาว่า “เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมจะแถลงความจริงให้ทุกท่านทราบ วันนี้ไม่ใช่วันของผม ขอให้ผู้สนับสนุนผมอดทนอีกนิดหนึ่งครับ...”

นอกจากการหนีคุกแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังถอยออกไปตั้งหลัก โดยหวังว่าวันหนึ่งเขาจะต้องกลับมาอีก ขอให้ผู้สนับสนุนเขาอดทนรออีกนิดหนึ่งเท่านั้น

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลับมาได้หรือ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนไทย ย่อมมีสิทธิที่จะเดินทางกลับประเทศไทยได้ทุกเมื่อ แต่คราวนี้ย่อมแตกต่างไปจากคราวก่อนที่เดินทางกลับเข้ามาก้มลงจูบพื้นดินไทยด้วยหวังว่า จะอยู่ได้อย่างยืดยาวเพราะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงสุด ได้เป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาลมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บอกได้ใช้ฟัง
แม้คณะรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นคนตั้งเสียเป็นส่วนใหญ่ มีที่นายสมัคร สุนทรเวช เลือกมาใช้สอยเป็นมือเป็นตีนบ้างก็คนสองคนที่หอบหิ้วกันมาตั้งแต่อยู่ กทม. ด้วยเห็นมือเห็นตีนจากเรื่องรถและเรือดับเพลิงบ้าง เรื่องขยะบ้าง ซึ่งเป็นชนักติดตัวนายสมัคร สุนทรเวช อยู่จนบัดนี้

ด้วยเหตุนี้เอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงมองเห็นทางสะดวก

“ผมคิดว่าเหตุการณ์คงจะดีขึ้น ผมคงจะมีโอกาสได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ และได้รับความเป็นธรรมจึงเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 แต่เหตุการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลงเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมและครอบครัวเป็นเสมือนผลไม้ที่เกิดจากต้นไม้ที่เป็นพิษ ผลของมันก็ย่อมเป็นพิษตามไปด้วย นั่นก็คือ ยังคงมีการสืบทอดระบบเผด็จการในการจัดการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย ตามมาด้วยการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม...”

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวตอนหนึ่งในแถลงการณ์ของเขา

เป็นการกล่าวเท็จอย่างหน้าด้านๆ ไร้ยางอาย (เพราะเขาไม่มียางอายมานานแล้ว)

การเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ได้มาซึ่งรัฐบาลหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช เป็นความขมขื่น เป็นความเศร้าของผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ไม่เพียงเพราะนายสมัคร สุนทรเวช เป็นเพียงมือปืนรับจ้าง เป็นหุ่นให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เชิดเท่านั้น หากตัวนายสมัคร สุนทรเวช เอง ก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่นำมาซึ่งความอับอายขายหน้าให้แก่ประชาชนคนไทย เริ่มเป็นนายกรัฐมนตรีก็มีคดีติดตัวโดยศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกเพราะหมิ่นประมาท ศาลไม่รอลงอาญาเพราะมีพฤติกรรมเช่นนี้หลายครั้ง ขณะนี้คดีอยู่ขั้นอุทธรณ์

บางประเทศนักการเมืองที่มีคดีติดตัวอย่างนี้ไม่มีทางที่จะสะเอะหน้ามาเป็นรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีหรอกครับ แต่นี่เป็นประเทศไทย และต่อมาเราก็ได้เห็นกันว่า คณะรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ล้วนแล้วแต่แผลพร้อยเต็มตัวด้วยกันทั้งนั้น บางรายแจ้งทรัพย์สินไม่ถูกต้อง ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า ขาดคุณสมบัติต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ก็เอากลับมาเป็นรัฐมนตรีได้อีก แถมกระทรวงใหญ่กว่าเดิม บางรายถูกฟ้อง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับฟ้องแล้วก็ยังหน้าด้านปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

หรือศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดออกมาว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ (นายนพดล ปัทมะ) ไปลงนามข้อตกลงกับกัมพูชากรณีเขาพระวิหาร ข้อตกลงข้อสัญญาเช่นนี้ต้องให้สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบเสียก่อน

คณะรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งมีมติเห็นชอบกับการกระทำของนายนพดล ปัทมะ ก็ไม่รู้สึกรู้สา ขอให้พวกเขาได้อยู่ในตำแหน่งก็พอ เพราะพวกเขามีภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่งที่จะต้องทำก็คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวไม่ต้องขึ้นศาล ไม่ต้องถูกดำเนินคดี

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถบงการฝ่ายบริหารที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าให้เคลื่อนไหวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 309 เพื่อให้ คตส.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ถ้าหาก คตส.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ คดีต่างๆ ที่ คตส.สืบสวนสอบสวนส่งให้อัยการฟ้องศาลต่างๆ ทั้งศาลอาญา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เป็นอันยกเลิก

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถบงการฝ่ายนิติบัญญัติ จะเอา นายยงยุทธ ติยะไพรัช หรือ นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็อยู่ที่เขา การสั่งให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนออกมาเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเช่นเดียวกัน

แต่ที่แก้ไขไม่ได้ทั้งที่กุมเสียงข้างมากในสภาฯ ทั้งที่ยื่นร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขไปแล้ว ก็เพราะการเคลื่อนไหวของประชาชน โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม เป็นต้นมาจนขณะนี้จะเข้า 3 เดือนแล้ว

ระหว่างที่ยังแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ คตส.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เอาขนมไปแจกเจ้าหน้าที่ศาลให้แบ่งๆ กันกิน กลายเป็นว่า ถุงขนมมีเงินอยู่ 2 ล้านบาท

ทีมทนายความ 3 คนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เลยต้องนอนคุก 6 เดือนอยู่ขณะนี้

แล้วยังหน้าด้านมาบอกว่า ขบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง?

ใครแทรกแซง ใครพยายามที่จะเข้าไปป่วนขบวนการยุติธรรมกันแน่

มีแต่อำนาจตุลาการเท่านั้นที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่สามารถที่จะเข้าไปแทรกแซงได้ ต่างไปจากเมื่อครั้งที่เขาเจอคดีซุกหุ้น เมื่อปี 2544

นอกจากเขาไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้แล้ว คำพิพากษาของศาลในคดีที่ภริยาของเขาหลีกเลี่ยงภาษีก่อนที่จะหอบหิ้วกันหนีไปลอนดอน

จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจ และสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะกระทำผิดฐานให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี จำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน ชินวัตร) เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ

จำเลยทั้งสามนอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย แต่จำเลยทั้งสามกลับร่วมกันกระทำการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรอันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อสังคมและระบบภาษี ทั้งๆ ที่จำนวนค่าภาษีอากรที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2 จะเป็นผู้ชำระแทนในที่สุดนั้นเทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำเลยที่ 2 และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น...

หน้าไม่ชา และหน้าไม่อายจริงๆ จึงพูดออกมาได้ว่ากระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภริยาเป็นคนไทย จะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อใดก็ได้ แต่ตอนนี้ต้องมาในฐานะอาชญากร เพราะมีหมายจับออกมาแล้ว

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คุณ "ให้แม่"..มากกว่าที่แม่ให้คุณหรือยัง?


เจ้าเด็กชายตัวน้องของเราเข้าไปหาแม่ และส่งกระดาษให้
หลังจากแม่เช็ดมือจากผ้ากันเปื้อนแล้วเธอก็ก้มลงอ่าน

ค่าตัดหญ้า 5.00 บาท

ค่าทำความสะอาดห้องผม อาทิตย์นี้ 1.00บาท

ค่าซื้อของให้แม่ 2.50บาท

ค่าดูแลน้องชาย 2.50บาท

ค่าเอาขยะไปทิ้ง 1.00 บาท

ค่าได้คะแนนดี 5.00บาท

ค่ากวาดสนาม 2.00 บาท

รวมค้างชำระ 19.00 บาท





แม่หยิบปากกาขึ้นมา แล้วพลิกกระดาษไปด้านหลัง แล้วเขียน


เก้าเดือนที่แม่ อุ้มท้อง ไม่คิดเงิน
เวลาแม่ พยาบาลลูกและสวนมนต์ ให้ ลูก ไม่คิดเงิน
ค่าที่ลูกทำให้ แม่เสียน้ำตา ไม่คิดเงิน
แม้แต่ เช็ดน้ำมูกให้ ไม่คิดเงินหรอกจ๊ะลูก
แมื่อรวมทั้งหมดเป็น ราคาเต็มของความรัก ไม่คิดเงินเหมือนกัน

เมื่อเด็กชาย ของเราอ่านสิ่งที่แม่เขียน น้ำตาหยดโตก็ไหลออกมา
เขาสบตาแม่ แล้วพูดว่า ... แม่ครับผมรักแม่จริงๆ ครับ
แล้วจากนั้นเค้าก็ หยิบปากกาขึ้นมาเขียนหนังสือตัวโตๆ ว่า


จ่ายหมดแล้ว


แม่จ่ายหมดแล้วแต่ลูกยังทอนไม่หมด....


วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พักรบการเมือง.....เชียร์นักกีฬาไทยไปโอลิมปิกกันเถอะ

วู้วๆๆๆ ถึงช่วงเวลาแห่งความประทับใจ
ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 29
โดยครั้งนี้จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
ระหว่างวันที่ 9 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2551
โดยจะมีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
ในวันนี้......วันที่ 8 สิงหาคมนี้
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้
ได้รับความสนใจของทั่วโลกเป็นอย่างมาก
ว่าแล้วเราคนไทยมาร่วมส่งแรงใจ
เชียร์นักกีฬาไทยไปโอลิมปิกกันเถอะค่ะ สู้ๆ

พันธมิตรฯเผยกำหนดการวันแม่แผ่นดินยิ่งใหญ่เริ่ม 10 ส.ค.



พันธมิตรฯ เผยกำหนดการจัดงานวันแม่แห่งแผ่นดินยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.เป็นต้นไปพร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้า ทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์สวดไล่อาถรรพ์พ้นแผ่นดิน "สนธิ" แฉกำหนดการ "พจมาน" บินจากปักกิ่งไปลอนดอนวันที่ 10 ส.ค.นี้แน่นอน ชี้แนวโน้มไม่กลับมามีสูง ชี้อนิจจังคนรอบตัว "แม้ว"รวมหัว "หมัก" ลอยแพแล้ว

วันที่ 7 ส.ค. เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประราธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะขึ้นเครื่องบินจากกรุงปักกิ่งไปกรุงลอนดอนแน่นอน และในวันนี้ลูกสาวก็ได้บินไปสมทบที่กรุงลอนลอนในวันที่ 10 สิงหาคมแล้ว ทำให้น่าสงสัยว่าจะกลับมาตามที่ศาลฎีกากำหนดเอาไว้ให้มารายงานตัวในวันที่ 11 สิงหาคมหรือไม่ จากนั้น นายสนธิ กล่าวว่า เริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 7 ส.ค. เป็นต้นไป เราจะประดับไฟ รวมทั้งจะเปลี่ยนฉากหลังเวที จะมีไฟส่องท้องฟ้า และมีการุดพลุอย่างสวยงามด้วย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป นายสนธิ กล่าวว่า รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 116 วัน ใช้เงินภาษีของประชาชนโดยมีวาระซ่อนเร้น เพื่อสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ แต่เราจัดงานฉลองด้วยใจที่กตัญญูต่อแม่ของแผ่นดิน นอกจากนี้ยังทำซีดีเพลงแม่และพ่อของแผ่นดินแจกอีก 5 หมื่นแผ่น ซึ่งพวกเราไม่ได้ทำเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ทำเพื่อแม่ของแผ่นดิน "ในทางธรรมคนที่ทุศีลไม่มีโอกาสทำความดี และจะไม่มีสัจจะในหมู่โจร โดยเฉพาะจากโจรที่เป็นสัตว์นรกยิ่งไม่มี" นายสนธิ ระบุและว่า เป็นเวลาเกือบ 2 ปีที่คนที่มีทั้งอำนาจเงินและอำนาจรัฐอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องระเห็จไปอยู่ต่างแดน แต่ยังไม่รู้สำนึก ไม่รู้ว่าทุกอย่างเป็นอนิจจัง "วันนี้ได้เห็นความจริงแล้วว่าคนรอบข้างได้หลอกใช้เพื่อหาผลประโยชน์ ทำให้เห็นผิดเป็นชอบ และวันนี้เมื่อหมดสภาพคนเหล่านี้ก็พร้อมใจกันลอยแพคุณทักษิณ ขณะเดียวกันคุณสมัคร(สุนทรเวช)กำลังสนุกกับอำนาจและเวลานี้คนที่เคยอยู่รอบข้างคุณทักษิณส่วนหนึ่งก็ไปรับใช้ นายสมัครแล้ว" นายสนธิ ระบุ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า เวลานี้ในบ้านเมืองมีอยู่ 4 กลุ่มคือกลุ่มของนายสมัคร กลุ่มที่รักภักดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กำลังเหลือน้อยเต็มที กลุ่มฝ่ายค้าน และกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นกลุ่มพลังแห่งความดี เป็นพลังบริสุทธิ์และได้แต่หวังว่ากลุ่มฝ่ายค้านจะมาร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในไม่ช้า เพราะการเมืองในสภามันไปไม่ได้แล้ว ขณะเดียวกัน นายสนธิ ได้ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลเวลานี้ก็เหมือนเศษสวะที่ไร้ประโยชน์ และคนอย่างนายบรรหาร ศิลปอาชา นายเสนาะ เทียนทอง หรือคนอย่าง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่เล่นการเมืองมาหลายสิบปี ก็ได้จบชีวิตทางการเมืองแล้ว เพราะได้ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ เปลือยธาตุแท้ออกมาอย่างหมดเปลือก รวมทั้งกลุ่มนักวิชาการจอมปลอมอย่างกลุ่มริบบิ้นขาวที่อยู่แต่ในหอคอยงาช้าไม่เคยมาสัมผัสความรู้สึกของพี่น้องที่นี่ว่าต้องการการเมืองใหม่อย่างไร "ชีวิตของคุณทักษิณ คุณพจมาน และลูกๆ เปล่าเปลี่ยว แต่ถ้าพวกเขามีความกตัญญูต่อชาติบ้านเมืองก็จะไม่เป็นแบบนี้ และพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้มีเงิน 2 แสนล้านก็ซื้อไม่ได้หมดทุกอย่าง" นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 10 11 12 ส.ค.จะพิสูจน์ให้พวกเขา(รัฐบาล) ได้เห็นว่าความจงรักภักดีโดยไม่ต้องเกณฑ์ใคร มาอยู่ในเต็นท์ติดแอร์ ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมนี้เป็นต้นไปให้ขอพี่น้องทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อสีฟ้า และในวันที่ 11 จะมีการถ่ายทอดพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จากนั้นจะทำพิธีสวดไล่อาถรรพ์ไล่สัตว์นรกเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน และวันที่ 12 จะมีการสวดถวายพระพรให้กับพระองค์ท่านอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ