วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

บรรยากาศการชุมนุม

บรรยากาศการชุมนุมขับไล่ “รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ” ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันที่ 29 ก.ค.51 เข้าสู่วันที่ 67 มวลชนจากทั่วสารทิศยังคงหลั่งไหลเข้าร่วมชุมนุมอย่างคึกคัก ในสถานการณ์การต่อสู้ที่เข้มงวดเข้าไปทุกที หลังจากที่รัฐบาลนอมินีระบอบทักษิณกำลังพบกับแรงกดดันรอบด้านทั้งจากพันธมิตรฯ กระบวนการตุลาการ องค์กรอิสระที่เร่งตรวจสอบความผิด ล่าสุดยังมีกรณีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคประกาศถอนตัว
ขณะที่กิจกรรมบนเวทีในวันที่ 67 ของการชุมนุม เป็นการปราศรัยของวิทยากรรับเชิญและแกนนำพันธมิตรฯ สลับกับการแสดงทางวัฒนธรรมเช่นเคย


(ต่างชาติก็มี)

(รำไทยก็มี)

(ตั้งใจดูการแสดง)


(มอบอะไรเล็กๆน้อย)

(ถึงตัวเล็กแต่ใจใหญ่)

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

"สนธิ"ย้ำ รบ.ขายชาติต้องไล่ออกสถานเดียว แค่เปลี่ยน รมต.ทวง"พระวิหาร"ไม่สำเร็จ

"สนธิ" ฟันธงจะปรับ ครม.เปลี่ยนรัฐมนตรีต่างประเทศอีกร้อยคนก็แก้ปัญหาปราสาทพระวิหารไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลขายชาติ ย้ำปล่อยให้อยู่ต่อไปประเทศฉิบหายแน่ ชี้เหตุการณ์สั่งอันธพาลออกมาสร้างความรุนแรงป่าเถื่อนสะท้อนการดิ้นรนระยะสุดท้ายแล้ว วันนี้(28 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีสะพานมัฆวานฯ โดยย้ำว่าแม้รัฐบาลจะแต่งตั้งรัฐมนตรีต่างประเทศอีกสักร้อยคนก็ไม่มีทางแก้ปัญหาปราสาทพระวิหารได้เลย และว่าหากรัฐบาลชุดนี้อยู่อีก 1 วันก็จะเสียหาย 1 วัน อีก 1 วินาทีก็จะเสียหาย 1 วินาที และถ้ายังอยู่ต่อไปประเทศฉิบหายแน่นอน นายสนธิ เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาเรื่องปราสาทพระวิหาร หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ว่า สิ่งที่ต้องทำมีหลายข้อดังนี้

1.ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีชุดที่แล้วที่ไปให้ความเห็นชอบในแถลงการณ์ร่วมให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
2.ตั้งคณะกรรมการอิสระที่เป็นกลาง และสังคมให้ความเชื่อถือมาไต่สวนหาความผิด
3.จากนั้นให้แจ้งไปยังสหประชาชาติว่ามีการฉ้อฉลและให้รื้อฟื้นคดีปราสาทพระวิหารขึ้นมาใหม่
4.ขอลาออกจากองค์การยูเนสโกและขอคืนสถานภาพโบราณสถานที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเอาไว้ในประเทศไทยทั้งหมด 5. เรียกทูตเขมรมารับทราบว่าไทยไม่ยอมรับแผนที่ที่เขมรอ้างฝ่ายเดียว และจะไม่ยอมรับเด็ดขาด
5. ตั้งทูตพิเศษเดินสายชี้แจงประเทศที่เป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พร้อมล็อบบี้ทั้งทางลับและเปิดเผย และชี้ให้เห็นว่าราเคยถูกฝรั่งเศสรังแกอย่างไร
6. แจ้งคนไทยตามแนวชายแดนรับทราบสถานการณ์หากมีตวามจำเป็นต้องปิดชายแดน
7.เสนอเจรจากับเขมรแบบทวิภาคี โดยยืนยันยึดสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดน หากตกลงกันไม่ได้ ก็ให้ยึดคำตัดสินของศาลโลกชั่วคราวนั่นคือให้เขมรถอนทหารกลับไปที่ปราสาทพระวิหาร ซึ่งไทยต้องรักษาอธิปไตยแม้จะเกิดสงครามก็ยอม เป็นต้น

นายสนธิ กล่าวว่า การยืนกรานท่าทีของไทยแบบนี้ย่อมทำให้เขมรโกรธ แต่ไม่กล้าทำสงครามกับไทย แต่ที่ผ่านมามีความก้าวกร้าวกับไทยเพราะมีรัฐบาลขายชาติ และถ้าเขมรหันไปพึ่งเวียดนามก็จะมีปัญหาในลักษณะเดียวกันระหว่างคนเขมรกับคนเวียดนามอีก

นายสนธิ กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์ไปถึงขั้นที่สหประชาชาติเข้ามาแล้ว ถึงตอนนั้นไทยมีความได้เปรียบ และว่าเมื่อเราลาออกจากยูเนสโกแล้วและเมื่อกรรมการ 7 ชาติที่บริหารปราสาทพระวิหารก็จะไม่ให้ใช้เขตแดนไทยเป็นทางผ่าน หากเข้าปราสาทพระวิหารให้ขึ้นจากฝั่งเขมีโดยนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปลงที่นั่น ถ้าเป็นดังนี้ทุกอย่างก็จะย้อนกลับไปสมัย 2505 ที่เขมรได้ไปเฉพาะปราสาท

"รัฐบาลชุดนี้จะปรับคณะรัฐมนตรีอีกกี่ครั้งก็ไม่มีความหมาย และเชื่อว่า นายเตช (บุนนาค) แก้ปัญหาปราสาทพระวิหารไม่ได้ เพราะนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ขายชาติ" นายสนธิ ระบุ

จากนั้นได้เปิดคลิปเสียงขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยปราศรัยกับกลุ่มกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าชมรมรักอุดรที่นำโดยนายขวัญชัย ไพรพณา นักจัดรายการที่นำม็อบถ่อยไปรุมทำร้ายพี่น้องพันธมิตรฯ เมื่อครั้งเดินทางไปตรวจราชการที่ภาคอีสาน อย่างไรก็ดีในคลิปเสียงดังกล่าว รตอ.เฉลิม กลับกล่าวชมกลุ่มชมรมคนรักอุดรฯในขณะนั้นว่าเคารพประชาธิปไตย แต่กลับกล่าวหาว่าพันธมิตรที่กระบี่เป็นม็อบเถื่อน

นายสนธิ กล่าวว่า จากภาพชี้ให้เห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิมและนายขวัญชัยมีความใกล้ชิด ซึ่งทั้งคู่ต่างเป็นนักการเมือง และต้องถูกดำเนินคดีในศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งโทษถึงขั้นจำคุก

"ใกล้ถึงเวลาสิ้นสุดเพราะสังเกตจาการมีปฏิกริยาจากจากพวกอันธพาล เพราะถ้าพวกเขาได้เปรียบเขาจะไม่สนใจ และวันนี้ 3 รัฐมนตรีที่ถูกศาลฎีกาฯรับฟ้องคดีหวยบนดิน ก้ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้ามีความผิดตามมาตรา 157 และสองสามวันจะมีคดีอย่างต่อเนื่อง วันที่ 31 มีการตัดสินคดีของคุณหญิงพจมาน ถ้าศาลจำคุก แม้ว่าสามารถอุทธรณ์ได้ แต่ถ้าศาลไม่ให้ประกันละ ทุกอย่างเป็นไปได้" นายสนธิ กล่าวและว่าหากเปรียบเหมือนเชือกที่ขมวดเข้ามาจนใกล้ขาดแล้ว ให้อดทนอีกนิด

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2551


ปะทะเดือด! ม็อบคนรักอุดร ปะทะ ม็อบพันธมิตร เจ็บอื้อ







อุดรธานี 24 ก.ค.- เกิดเหตุกระทบกระทั่งระหว่างกลุ่มชมรมคนรักอุดรกับกลุ่มพันธมิตรฯ มีผู้บาดเจ็บกว่า 10 ราย ด้านผู้ว่าฯ สั่งเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน หากมีผู้แจ้งความดำเนินคดี

เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (24 ก.ค.) กลุ่มชมรมคนรักอุดรประมาณ 200 คน ผูกศีรษะด้วยผ้าสีแดง ซึ่งมีนายอุทัย แสนแก้ว ใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวบนรถกระบะขณะเคลื่อนขบวนจากเวทีสนามทุ่งศรีเมือง มุ่งหน้าไปยังเวทีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.อุดรธานี ที่ตั้งเวทีอยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งมีตำรวจและอาสาสมัครกระจายกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย ปรากฏว่า เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายขึ้น เนื่องจากกลุ่มชมรมฯ และกลุ่มพันธมิตรกระทบกระทั่งถึงขั้นใช้กำลังจนได้รับบาดเจ็บ บางคนถูกตีด้วยไม้จนสลบ เจ้าหน้าที่พยายามเข้าระงับเหตุ แต่ไม่เป็นผล พร้อมเรียกรถฉุกเฉินมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และรถของโรงพยาบาลยังถูกทุบกระจกแตกเสียหาย โดยที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีมีผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้ถูกส่งมารักษาตัว 13 คน คือ นายแก้ว จันธิชู อายุ 59 ปี นายชนะศักดิ์ ผ่องเทิดทิ่ง อายุ 54ปี นายจวง ขาเกตุศรี อายุ 46 ปี นางธนัยนันต์ จรัสกีล้วน อายุ 30 ปี นายสมพร รักดาดาษ อายุ 23 ปี นายเฉลิมวุฒิ ปะวิเศษ อายุ 61 ปี น.ส.สุจิรา มีชั้นช่วง อายุ 43 ปี นายรัตนะชัย ทองสุก อายุ 22 ปี นายรังสี ศุภชัยสาคร อายุ 61 ปี นายพงษ์เทพ แก้วใส อายุ 25 ปี นายโกวิทย์ เรียวแรงไกรสร อายุ 63 ปี นายพาเลิศ อินบัวศรี อายุ 52 ปี และนายเสรี เป็นสุข อายุ 49 ปี

พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดาศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ พยายามป้องกันเหตุรุนแรง และแยกทั้งสองกลุ่มออกจากกัน โดยกลุ่มชมรมคนรักอุดรไม่อยากให้กลุ่มพันธมิตรฯ เปิดปราศรัยที่ จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปเพื่อต้องการยุติเวที อย่างไรก็ตาม การกระทบกระทั่งกันครั้งนี้จะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานก่อนดำเนินคดี เพราะมีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้เข้ามาแจ้งความก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครมาแจ้ง

นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้ว จึงกำชับให้ตำรวจรวบรวมหลักฐานและบันทึกภาพไว้ เพื่อนำมาตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุก่อน

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2551



พล.อ.เชษฐา ระบุกลุ่มก่อความไม่สงบใต้ประกาศหยุดปฏิบัติการตั้งแต่เที่ยงวันนี้กรุงเทพฯ 17 ก.ค. - อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่ากลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ทุกกลุ่ม ประกาศจะหยุดปฎิบัติการในพื้นที่ ตั้งแต่เที่ยงวันนี้เป็นต้นไป

พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จากการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อหาข้อยุติความไม่สงบในภาคใต้ ล่าสุดกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ทุกกลุ่ม ประกาศว่า จะหยุดปฏิบัติการในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่เที่ยงวันนี้เป็นต้นไป ส่วนหลังการประกาศจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม พร้อมยืนยันว่าการประกาศดังกล่าวไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร รวมทั้งไม่มีการจัดฉากแต่อย่างใด

“พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร” ยืนยันการประกาศยุติการก่อเหตุความรุนแรงในภาคใต้ของกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ ไม่ใช่การจัดฉาก และไม่มีนัยทางการเมือง เผยมีการประสานพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อหาข้อยุติปัญหาความไม่สงบใต้ ปัดไม่เกี่ยวกับการปรับ ครม. พร้อมประกาศไม่รับตำแหน่ง รมว.กลาโหม




วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ขำขำ


* จะไม่ยุ่งกับการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม

วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เศรษฐกิจพอเพียง

เศรษฐกิจพอเพียง

“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็น
อย่างดี
" เศรษฐกิจพอเพียง แปลว่า Sufficiency Economy …
คำว่า Sufficiency Economy นี้ไม่มีในตำราเศรษฐกิจ.
จะมีได้อย่างไร เพราะว่าเป็นทฤษฎีใหม่ …
Sufficiency Economy นั้น ไม่มีในตำรา
เพราะหมายความว่าเรามีความคิดใหม่ …
และโดยที่ท่านผู้เชี่ยวชาญสนใจ ก็หมายความว่า
เราก็สามารถที่จะไปปรับปรุง หรือไปใช้หลักการ
" เพื่อที่จะให้เศรษฐกิจของประเทศและของโลกพัฒนาดีขึ้น. "

(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 23 ธันวาคม 2542 )






คลิป เศรษฐกิจ พอเพียง จาก Seedang.com